วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Top 5 Spirits 4 [ต่อ]

สวัสดีกันอีกครั้งครับผม มิตรรักแฟนบล็อคคอเหล้า ของคนชงเหล้าทั้งหลาย วันนี้ก็สืบเนื่องต่อมาจากเมื่อตอนที่แล้ว เราได้พูดคุยกันถึงเรื่องเหล้าค้างไว้นิดหน่อย วันนี้ก็เลยอยากจะมารินเหล้าเพ่ิม เติมโซดาอีกนิดนึง ถ้าใครมีน้ำแข็งก็เข้ามานั่งล้อมวงกันเลยครับผม จะเร่ิมรินเหล้าแล้ว
Whisky หรือที่เรียกกันจนคุ้นหูบ้านเราไปแล้วว่า วิสกี้นั้น น่าจะเป็นเหล้าเพียงกลุ่มเดียวใน Top 5 Spirits ที่ผมคิดไปเองว่ามันเป็นเหล้าที่ขายดีไปทั่วโลก แต่ว่าในทางกลับกัน เหล้าตัวที่ผมเอาไว้ท้ายสุดนี้ในตลาดโลก กลับเป็นเหล้าตัวที่ขายดีที่สุดในตลาดไทย 4 ตัวแรกนั้นคนไทยบางกลุ่มก็พอเคยดื่ม เคยลอง หรือว่าเคยรู้จักมันบ้างว่ามันก็คือเหล้าชนิดนึงเหมือนกัน แต่ว่าสำหรับคนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ไอ้เหล้า 4 ตัวแรกนั้น มันช่างเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะห่างไกลตัวเสียเลยเกิน ยังไม่เคยลอง ยังไม่เคยดื่ม และบางคนยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ผมเชื่อว่าใครก็ช่างที่กำลังนั่งอ่านบทความตรงนี้อยู่ ทุกๆคนน่าจะรู้จักกับมันดี แต่ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีกหลายล้านคนเลยแหละ ที่เขานานๆจะมีโอกาสได้ดื่มอะไรที่มันไม่บาดคอมากจนเกินไปนัก แต่ว่านั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะเอามาถกกันวันนี้ครับผม วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของเครื่องดื่มที่คนไทยเราคุ้นเคยและโปรดปรานมันมากที่สุดในหมู่ของน้ำเมาที่เรียกว่าเหล้าครับ
Whisky นั้นทำมาจากข้าวชนิดต่างๆ ที่นำมาทำการหมักกับน้ำ แล้วก็เติมยีสต์ หลังจากการหมักซักระยะนึง ในระยะเริ่มต้นนี้ถ้าหยุดกระบวนการการหมักไว้ที่ระดับนึ่งที่ยีสต์เร่ิมทำปฎิกิริยากับน้ำตาล ก็จะได้น้ำเมาอีกชนิดนึงที่เราเรียกกันว่า "เบียร์" แต่ว่าถ้าปล่อยให้กระบวนการหมักยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องปล่อยให้ยีสต์ทำปฎิกิริยากันน้ำตาลต่อไปจนหมดหรือเกือบหมดปริมาณน้ำตาล เราก็จะได้น้ำเมาที่เร่ิมจะไกล้เคียงกับคำว่าเหล้า พอได้ขบวนการตรงนี้แล้ว น้ำเมาที่ได้ก็จะยังไม่ใสบริสุทและยังไม่มีรสชาดที่ดีพอที่จะเอามาบริโภคได้ ก็จะต้องนำมันไปทำการต้มอย่างที่บ้านเราเรียกว่าต้มเหล้านะแหละ แต่ว่าตรงนี้ขอเรียกว่าเป็นการกลั่นก็แล้วกัน ฟังดูดีหน่อย แต่ว่าโดยหลักการมันก็คือการต้มนะแหละ ให้ไอของน้ำเมาระเหยขึ้นไปตามท่อที่ต่อไว้แล้วก็ไปผ่านท่อน้ำเย็นให้ตกลงมาเป็นหยดแอลกอฮอล์ที่ใสบริสุทธ์ และมีประมาณแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้นเพราะว่าไอ้ที่ระเหยขึ้นมาและตกลงมาอีกหม้อนึงนี่คือแอลกอฮอล์ล้วนๆ  แต่ก็อีกนะแหละ พอได้น้ำเมาบริสุดตรงนี้มาแล้ว สีสันและรสชาดที่ได้ก็ยังไม่ได้บอกว่ามันเป็นสีและรสชาดของ Whisky ที่เราเห็นอยู่นี่แล้วนะ มันยังจะต้องไปผ่านกระบวนการคัดเลือก และการปรุงแต่งรสชาดตามสูตรของแต่ละโรงกลั่นอีก และกระบวนการสุดท้ายหลังจากเลือกหัวน้ำเมาได้แล้ว เอามาปรุงแต่งรสชาดได้แล้ว ก็จะต้องมาถึงกระบวนการในการหมักบ่มกันต่ออีกในถังไม้ หรือถังสแตนเลสก็เป็นได้สำหรับเหล้าตลาดราคาถูก กระบวนการบ่มนี้ก็จะใช้เวลาอีกเป็นปี 3 ปี 6 ปี ไปได้เรื่อยๆ จนถึง 40 ปีขึ้นไปก็มี แต่ว่าเหล้าตลาดที่ขายกันโดยทั่วไปก็จะอยู่ระหว่าง 3-12 ปี ซะส่วนใหญ่ ยังครับยังไม่จบ บ่มกันจนได้ที่แล้้วก็ต้องมาผ่านกระบวนการกรองเพื่อจะบรรจุขวดอีก ลองนึกดูเอานะครับกว่าจะได้เหล้ามาหนี่งขวดนี่มันใช้เวลาที่ยาวนานแค่ไหน เพราะฉนั้นเวลาดื่มWhisky ดีๆ ที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เขาจะไม่ผสมกัน บางคนยิ่งขอดื่มแบบเพียวๆเลยน้ำแข็งก็ไม่ต้อง แต่ว่าถ้าดื่มเพียวๆไม่ไหวก็ใส่น้ำแข็งแค่ก้อนเดียวก็พอ มันจะได้ไม่ไปทำลายรสชาดและความหอมที่เขาบรรจงปรุงแต่งและหมักบ่มมาเป็นเวลานานแสนนาน
เป็นงัยกันบ้างครับผม เร่ิมเมากันบ้างหรือยัง จริงๆแล้วถ้าจะให้เล่ากันแบบละเอียดเกี่ยวกับ Whisky แล้วล่ะก็ ผมว่าอีกหลายเมาก็ไม่จบครับผม มันมีอะไรที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อยู่อีกเยอะมากครับ อันนี้เอาแบบรวบรัดแล้วนะ และเอาแบบหลักๆแค่นั้น มันยังมีอีกเยอะเลย เอาเป็นว่าจะแบ่งหัวข้อออกมาไว้เล่ากันวันต่อๆไปก็แล้วกัน
ชุดนี้น่าจะคุ้นกันแล้ว ขวดแรกนั้นว่ากันว่ามันบ่มอยู่ประมาณ 3-6 ปี ขวดที่สองนี่เขียนไว้ แน่นอนว่า 12 ปี รุ่นนี้คนไทยชอบมาก และขวดที่สามนี้เป็นอีกรุ่นที่เก่าพอควรบอกเอาไว้ว่า 18 ปี ที่นอนนิ่งอยู่ในถังไม้อย่างดี

3 ตัวนี้ที่ทำให้ทั้งฝรั่งและคนไทยสับสนกันไปทั่วโลก เพราะว่ามันมักจะตั้งอยู่ในหมวดในแถวเดียวกัน ขนาดในเมนูเครื่องดื่มบางทีมันยังอยู่ในกลุ่มเดียวกันอีกต่างหาก แต่ว่าเหล้า 3 ตัวนี้มันเป็นเหล้าคนละชนิดกันเลย เพียงแต่ว่ามันคลายกันซะจนแทบจะแยกไม่ออก เดี๋ยวจะอธิบายเพิ่มเติมตอนต่อไปนะครับอยากรู้ต้องติดตาม

Gentleman Jack นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นจากครอบครัว Jack Daniels  ประมาณการว่ามันคือ
"Rare Tennessee Whiskey"
Rare คำนี้ถ้าบ้านเราใช้บ่อยก็คือเวลาสั่งสเต็กแล้วขอแบบไม่สุกก็จะใช้คำว่า Rare
แต่ว่าพอมันมาอยู่ข้างขวดเหล้าแล้ว มันจะเปลี่ยนความหมายไปเป็นว่า "สุดยอด  เลอค่า หายาก"  ประมาณนั้น


ขวดนี้คงไม่ต้องพูดถึงกันมาก รู้จักกันอยู่ดี เคยดื่มแล้วด้วย แต่ว่ารู้ไว้นิดก็ดีว่ามันคือหนึ่งในอีกหลายร้อยยี่ห้อที่มาจาก Scotchland ที่โด่งดังและคงความเป็นอมตะในเรื่องของรสชาดของน้ำเมามาได้เป็นเวลากว่า 200 ปีแล้ว

นี่ก็อีกหนึ่งในตระกูลนักเดินทาง Johnnie Walker ถือว่าเป็นน้องเขาสุดถ้าแบ่งรุ่นกันตามอายุการบ่มและเรืองของราคา แต่ว่าสรรพคุณในการที่สามารถทำให้คนดื่มมันแล้วเมาได้ ยังคงมีความสามารถไม่ได้ด่อยไปกว่ารุ่นพี่ 

หนึ่งในเกรดพรีเม่ียมของวันนี้ที่เอามาให้ดู บ่มอยู่ในถังไม้ตั้ง 18 ปีกว่าจะได้ลิ้มรสชาดของมัน เพราะฉนั้นเผื่อว่าใครได้มา อย่าดื่มผสมโค้กหรือโซดาให้คนเขาหัวเราะเราได้ว่าเราไม่ได้รู้คุณค่าของส่ิงที่เรามีอยู่่เลย ตามมารยาทและความน่าจะเป็นแล้ว เหล้าตัวนี้ดื่มกันอยู่ 2 วิธีครับ
On the Rocks / Straight Up แค่นี้ครับ แต่ว่าถ้าอยากจะผสมมันก็เงินของท่านครับ ตามสบาย

สองพี่น้องต่างถินที่บังเอิญมาเหมือนกันยังกะแกะขาวกะแกะดำ วันนี้คงอธิบายไม่หมด ติดตามกันต่อในตอนต่อไปครับ แค่อยากบอกว่ามันต่างกันมาก แต่ว่าทุกๆคนทั่วโลกกลับคิดว่ามันคือพี่น้องฝาแฝดกันซะอีก

หนุ่มหล่อมาดเข้มนามว่า Jack daniels

เป็นยี่ห้อที่บ่งบอกถึงความรักชาติเป็นอย่างมาก ใครเป็นคน Canada  ไม่สั่งดื่มก็ดูยังงัยๆอยู่ก็เลยต้องดื่มกันหน่อย

สั่งลากันด้วยตัวนี้ ของดีจากเมืองที่เด็กไทยทุกคนรู้จักที่มาของมันดี ว่ามันคือเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการทอดไก่ จนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบกันไปทั่วโลก ยังงัยแล้วจะมีบทต่อไปนะ

ครับผม วันนี้คิดว่ารินไปหลายแก้วแล้ว น่าจะเร่ิมกรึ่มเร่ิมเมากันบ้างแล้วแหละ เอาเป็นว่าขอหยุดการรินเหล้าไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะ วันหน้าจะมารินเหล้าให้ฟังใหม่

Drinks Responsibly
"คนชงเหล้า"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น