วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Singapore Sling

ครับผม วันนี้แวะเอาข้อมูลดีๆ ที่เราๆท่านๆ อาจจะหลงจะลืมมันไปแล้ว เพราะว่าเราได้ยินชื่อมันจนเป็นเรื่องปรกติเคยชินไปเสียแล้ว วันนี้เราจะมากล่าวถึง Cocktails ตัวนึง ซี่งเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอดีต และจนกระทั้งในปัจจุบันนี้ก็ยังคงพอได้รับความนิยมอยู่บ้าง เรียกว่าเป็น Cocktails ในตำนานตัวนึงเลยก็ว่าได้เช่นกัน Cocktails ตัวที่กำลังพูดถึงนี้ก็คือ Singapore Siling ครับผม ชื่อก็บอกแล้วว่ามันต้องเป็นเครื่องดื่มที่มาจาก Singapore อย่างแน่นอนอยู่แล้ว Cocktails ตัวนี้มีมานานแสนนานแล้ว เมื่อตอนที่ผมก้าวเข้าสู่เส้นทางของโรงแรมครั้งแรกเลย เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย ก็เคยได้ยินชื่อของ Cocktails ตัวนี้แล้ว วันนี้จะพาไปดู ประวัติ ความเป็นมาของมันอย่างคร่าวๆ กันครับผม


สิงคโปร์สลิง (Singapore Sling) เป็น Cocktails ที่คิดค้นโดยเงียมตงบุน Bartender ที่ทำงานอยู่ที่ลองบาร์ (Long Bar) ในโรงแรมราฟเฟิลส์ สิงคโปร์ เมื่อก่อน พ.ศ. 2458  สูตรที่ตีพิมพ์ในบทความเกี่ยวกับโรงแรมราฟเฟิลส์ก่อนทศวรรษที่ 1970 นั้นแตกต่างจากสูตรในปัจจุบันอย่างมาก และ "สิงคโปร์สลิง" ที่ดื่มในสิงคโปร์นั้นส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงมาจากสูตรที่ใช้ในโรงแรมราฟเฟิลส์ สูตรเดิมจะใช้ Gin, Cheery Herring, Benedictine และส่วนที่สำคัญที่สุดคือ น้ำสัปปะรดสด ซึ่งแรกเริ่มเลยจะใช้สับปะรดซาราวัก ช่วยเพิ่มรสชาดและทำให้เกิดฟอง สูตรส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะใช้น้ำสับปะรดบรรจุขวดแทนน้ำสับปะรดสด และเติมโซดาให้เกิดฟองด้านบน สูตรของโรงแรมถูกคิดขึ้นใหม่จากความทรงจำของ Bartender คนก่อนๆ และจดบันทึกไว้ ซึ่งทำให้สามารถรู้เกี่ยวกับสูตรเดิมได้ หนึ่งในสูตรที่เขียนไว้อย่างลวกๆ ยังคงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โรงแรมราฟเฟิลส์
สูตรของโรงแรมราฟเฟิลส์ในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจากสูตรเดิมในหลายส่วน ซึ่งเป็นไปได้มากว่าปรับปรุงในทศวรรษที่ 1970 โดยหลานของเงียมตงบุน ทุกวันนี้สิงคโปร์สลิงที่บริการที่โรงแรมราฟเฟิลส์มักจะผสมไว้ล่วงหน้า และใช้เครื่องปั่นอัตโนมัติที่ผสมแอลกอฮอล์และน้ำสับปะรดในปริมาณที่กำหนดไว้ แล้วปั่นรวมกันแทนการเขย่าเพื่อให้เกิดฟองด้านบนได้ดี รวมทั้งยังช่วยประหยัดเวลาเมื่อมีรายการสั่งจำนวนมาก แต่ก็ยังสามารถสั่งแบบเขย่าได้จากบาร์เทนเดอร์
นี่แหละครับผม ประวัติ ความเป็นมาของเจ้า Cocktails ที่ชื่อว่า Singapore Sling ครับผม เดี๋ยววันหน้าเรามาทำดื่มกันก็ได้ครับผม
นี่แหละครับหน้าตาของเครื่องดื่มที่แก้วล่ะเกือบพันบาทไทย ความอร่อยนั้นก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่ว่าความเป็นตำนานและความมีชื่อเสียงของการสร้างเครื่องดื่มตัวนี้ต่างหาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น