วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Martini's Cocktails

สวัสดีครับผม มิตรรักขาดื่มทั้งหลาย เป็นงัยกันบ้างครับผม หลังจากได้วันหยุดยาวๆ มากันวันนี้ทุกๆ คนก็คงกลับมาทำงานกันตามปรกติแล้ว หวังว่าเดินทางกลับมาปลอดภัยดีกันนะครับผม มีข่าวที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับอุบัติเหตุบนท้องถนนครั้งใหญ่ที่พ่ึงเกิดขึ้นเมื่อวันก่อนนี่เอง ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าครับ ขับมาดีๆ อีกคันโผล่มาจากอีกฝั่งมาชนแบบไม่รู้เน้ีอรู้ตัวเลย เอาเป็นว่าคนชงเหล้าก็ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งน้ันด้วยนะครับผม
เอาล่ะครับผม หยุดคุยเรื่องเหล้ามาแล้ว 2 วัน ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหล้าให้เพื่อนๆ และมิตรรักขาดื่มมีอะไรมากระแทกคอเล่นๆ กันบ้างครับผม วันนี้ขอมาในแนวแบบว่าผู้ดีนิดๆ แต่รับรองว่าไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนครับผม วันนี้จะนำเสนอ Cocktails ที่อยู่ในหมวดหมู่ที่เขาเรียกขานกันว่า Martini  Martini นี้ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมาจากอเมริกา เป็นคนริิเร่ิมทำและก็เร่ิมนิยมดื่มกันอย่างมากมายตามบาร์และโรงแรมต่างๆ และ Martini แต่ละตัวที่ดังๆ และมีชื่อเสียงนั้นก็ส่วนใหญ่แล้วจะมาจาก ซุปตาร์ทั้งหลายแหล่ซะส่วนใหญ่เลย อเมริกันเป็นคนริเร่ิมทำและดื่มเครื่องดื่มแก้วเล็กนี้แต่ว่าแก้วที่อเมริกันชนนำมาใช้ในการใส่เครื่องดื่มแก้วนี้นั้น กลับถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศษ [อันนี้เขาว่ามานะ]  Martini นั้นเป็นเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่า แรงเอาการ เพราะว่าส่วนผสมหลักของมันก็คือเหล้าล้วนๆ ในยุคแรกๆ ของการทำ Martini เช่น Gin Martini ก็จะมีแค่ Gin + Dry Vermouth แล้วก็ดื่มกับ Olive หรือว่า Twist แค่นั้น ถ้าเป็น Vodka Martini ก็แค่ Vodka + Dry Vermouth แค่นั้นเอง และก็ดื่มกับ Olive หรือว่า Twist เช่นกัน และจากความนิยมกันอย่างมากแต่ว่ารสชาดมันเองนั้นกลับไม่ถูกปากใครบางคน [อยากให้เข้าไปอ่านบทความของผมครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือเปล่า คลิก] ก็เลยต้องมีการเติมโน่นแต่งนี้ และก็เพื่มรสชาดและสีสันที่เมื่อก่อนไม่มีสีสันอะไร ไม่มีรสชาดอะไรเลยนอกจากแอลกอฮอล์ ผมเป็น คนชงเหล้า มาสิบกว่าปีแล้วผมยังไม่มีความรู้สึกหรือว่าอยากจะดื่มมันเลยครับผม ไอ้ Classic Martini เนี่ย
ครับหลังจากนั้นไม่นาน Martini ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ในแต่ละวันจากหลายๆ บาร์ หลายๆ โรงแรมก็มีการคิดค้นสูตรและเรื่องราวของ Martini ของตนออกมาให้ลูกค้าได้มีความหลากหลายในการสั่ง Martini ที่ไม่จำเจเหมือนเดิมอีกต่อไป
เอาล่ะครับผม รู้ไว้ใช่ว่า แต่ว่ารู้มากไปก็แค่นั้นแหละครับผม เอาเป็นว่าพอรู้ก็แล้วกันนะ มาดูกันดีกว่าไอ้ที่ฝรั่งมันคลั่งไคล้กันนักหนาน่ะมันมีอะไรน่าสนใจหรือว่าน่าลิ้มลองกันขนาดไหน
Classic Gin Martini
นี่แหละครับผม ถ้าเป็น Martini แบบดัั้งเดิมเลยก็จะมีสีสันเหมือนน้ำเปล่าอย่างที่เห็นนี่แหละครับผม แต่ว่าเครื่องดื่มตัวนี้จัดได้ว่าเป็นเสือซ่อนเล็บเลยก็ว่าได้  ก็ที่เห็นอยู่ในแก้วเพียวๆ น่ะมันแอลกอฮอล์ล้วนๆ เลยนะครับผม มีส่วนผสมของน้ำแข็งที่ละลายจากการเขย่านิดหน่อยแต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้ความแรงของมันลดน้อยถอยลงแต่อย่างใดครับผม ถ้าคอไม่แข็งนะครับผม รับรองว่า แก้วที่สอง ก็น่าจะออกอาการนิดนึงแล้วแหละ
ส่วนผสมหลักมีดังนี้
Gin / Vodka             3 Oz
Dry Vermouth       1/4 Oz
แล้วก็เตรียม Garnish หรือว่าจะเรียกว่าเครื่องเคียงก็ได้นะ ตัวนี้จะนิยมใช้อยู่ 2 อย่าง คือ
Olive หรือ Twist [ส้มหรือว่ามะนาวเหลืองก็ได้]

ครับผมนี่ก็คือ Classic Martini ที่สวยใสแต่ว่าไม่ไร้แอลกอฮอล์นะครับผม โค ตะ ระ แรงเลยแหละ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับผม

Cosmopolitan
นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Martini ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชน อเมริกันเป็นอย่างมาก ถามว่าเนื่องด้วยรสชาดมั๋ยก็ต้องบอกว่า มีส่วนรสชาดตัวนี้ใช้ได้ แต่ว่าจะเหมาะกับผู้หญิงซะส่วนใหญ่ แต่ว่าผู้ชายที่ทั้งแท้ทั้งเทียมก็เห็นสั่งกันเยอะแยะมากมาย เสริฟกันแทบไม่ทันในบางวัน ก็อย่างที่บอกไว้นะแหละครับผม ตัวนี้มันเกิดขึ้นมาในบาร์ตั้งนานแล้วแหละ แต่ว่าก็พอได้รับความนิยมบ้าง แต่ว่าพอมันได้เป็นเครื่องดื่มประจำหนังดังสุดฮิตของอเมริกาอย่าง Sex and The City ที่บรรดาสาวๆ ตัวเด่นในเรื่องจะชอบมาเจอกันที่บาร์และก็จะสั่งเครื่องดื่มตัวนี้แหละ ผ่านจอหนัง ผ่านคนดูกว่า 200 ล้านคนทั่วอเมริกา  เครื่องดื่มตัวนี้ก็เลยดังแบบว่าแรงดีไม่มีตกตั้งแต่นั้นเป็นตนมาจนปัจจุบัน
มาดูกันครับผม เผื่อยากทำไว้ดื่มเองต้องมีอะไรบ้าง
Absolut Citron         2     Oz
Cointreau         1/2   Oz
Rose Lime Juice      1/4     Oz
Cranberry Juice       1/2     Oz
เครื่องเคียงก็แค่ Twist เพื่อเพิ่มความหอมครับผม
แค่นี้แหละครับผม เครื่องดื่มระดับโลกที่ดังค้างฟ้าในแทบจะทุกบาร์ที่มีสาวๆ และชายไม่แท้

แก้วนี้ไม่ใช่พระเอกจากหนังเรื่องใดๆทั้งสิ้น และก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปถึงไหน เพราะว่าผมคิดและอยากทำขึ้นมาให้ลองชิมกันเอง คิดว่าน่าจะถูกใจสาวๆ [อีกแล้ว] ก็บอกแล้วงัยครับผม ว่า Martini นั้นมันเหมาะกับผู้หญิง แต่ว่าจริงๆ แล้วผู้ชายชอบสั่งมากกว่า[ไม่งงนะ] เอาล่ะมาเข้าเรื่องกัน ตัวนี้ขอตั้งชื่อมันว่า Peachee Tini ครับ มาดูกันว่าอยากดื่มต้องเตรียมไรบ้าง
Orange Vodka        2 1/2      Oz
Cointreau       1/4       Oz
Peach Schnapps      1/4      Oz
Orange Juice       1/2        Oz
แล้วก็หาส้มมาซักซีก แปะไว้ข้างแก้ว พอสวยและจะเพ่ิมรสชาดและกลิ่นที่ชวนดื่มขึ้นไปอีก
สำหรับ Orange Vodka นั้นอยากแนะนำว่า Grey Goose หรือว่า Absolut ก็ได้ แต่ว่าถ้าบอกว่าไม่เกี่ยงยี่ห้อ อะไรที่เป็น Vodka หยิบมาเถอะครับผม ตามสบายครับ 


นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Classic Martini ที่มีสีสันกว่าเพื่อนในยุคก่อน แต่ว่าเห็นมีสีสันอย่างนี้ อย่าคิดว่าแอลกอฮอล์จะหายไปนะครับเพราะว่าเจ้าตัวนี้ มีส่วนผสมอยู่แค่ 2 ตัวครับผม คือว่าเหล้า 2 อย่างแค่นั้นเองครับผม ไม่มีอะไรมาตัดความแรงของแอลกอฮอล์เลยครับผม ลูกค้าหลายๆ คนดื่มแล้วฝืนชอบเพราะว่ามันคือ Martini ต้องดื่มให้เป็น บางคนดื่มแล้วมีความเป็นตัวของตัวเองสูงวางแก้วทันทีและบอกว่าขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นอันนี้ "แ-กไม่ลง" ก็มี ส่วนอีกคนดื่มเสร็จจนหมดบอกว่าขออีกแก้วก็พอมี บอกว่ามันแรงดี ชอบ
มาดูกันว่ามันมีอะไรบ้าง ถ้าเอาตามสูตรมันนะ มีเหล้าแค่ 2 ตัว วันนี้ขอใส่ให้มันเป็น 3 ตัวจะได้เพ่ิมรสชาดและความแรงให้กลมกล่อมขึ้น
Vodka         2       Oz
Blue Curacao      1/2       Oz
Cointreau         1/2        Oz
แค่นี้แหละครับผม แล้วก็เตรียมส้มเป็นชิ้น หรือว่า Twist ก็แล้วแต่ครับผม บอกไว้ก่อนว่ามันแรง

แก้วนี้พึ่งทำยังไม่ได้ตั้งชื่อ เดี๋ยวขอแสียงประชามติแถวๆ นี้ก่อนแล้วจะกลับมาลงรายละเอียดและชื่อของมันก็แล้วกัน 
เอาล่ะครับผม วันนี้ก็คงมีมาฝากกันแค่นี้ก่อน ยังงัยก็ติดตามในตอนต่อไปครับผม เฉพาะ Matrini นี้ยังมีอีกหลายภาค หลายตอนแน่นอนครับผม พูดง่ายๆว่าถ้าทำวันละแก้วดื่มนะ  3 เดือนไม่ซ้ำแน่นอน แต่ว่าคงจะสลับสับเปลี่ยนกันไปนะ เดี๋ยวจะเมากลิ้งกันเสียก่อน ยังงัยก็ดื่มแล้วอย่าขับเด็ดขาดนะครับ อยากให้คนไทยรักการดื่มแบบมีสติครับผม 
Drinks Responsibly
ด้วยความปรารถนาดีจาก "คนชงเหล้า"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น