วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Mai Tai

สวัสดีครับผมแฟนๆ บล็อคของ "คนชงเหล้า" ครับผม ไม่ได้หายไปไหนไกลครับผม ยังวนเวียนอยู่แถวๆนี้นี่แหละครับผม เพียงแต่ว่าตอนนี้งานเข้านิดหน่อย เลยไม่ค่อยมีเวลาซักเท่าไหร่ วันนี้ก็ได้มีโอกาสมานั่งเขียนบล็อคแล้วก็เลยอยากถือโอกาสแนะนำกันเพิ่มเติมสำหรับแฟนบล็อคหน้าใหม่นะครับผม "คนชงเหล้า" เองนั้นมีบล็อคอยู่หลายบล็อคพอสมควร และใครๆที่เข้ามาอ่านแล้วเกิดความรู้สึกว่าอยากติดตาม อยากอ่านบทความใหม่ๆ ของบล็อคเพิ่มเวลามีการอัปเดทบทความใหม่ๆ ก็ขอเชิญชวนให้เข้ามาเป็นแฟนเพจกันนะครับผม ทุกครั้งที่มีการอัปเดทข้อมูลและบทความใหม่ๆ ข้อมูลจะได้ส่งตรงถึงเพื่อนๆทุกคนเลย เข้าไปเป็นแฟนกันได้แล้วกดที่นี้ Like ได้เลยครับผม ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่อยู่บน Twitter ก็แอ็ดเข้ามาได้นะครับผม @konchonglao ครับผม มีอะไรใหม่ๆอัปเดทก็จะแจ้งผ่าน twitter ทุกวันครับผม หรือว่าใครใช้ instagram ก็ติดตามกันได้ที่ konchonglao เช่นกันครับผม อีกตัวสุดท้ายแต่ว่ายังไม่ท้ายสุด เพื่อนๆ ที่ใช้ Line ก็แอ็ดเข้ามาคุยกันได้ครับผมในชื่อ คนชงเหล้า ตรงๆ ครับผม ชอบช่องทางไหนสะดวกช่องทางไหนก็ตามสบายครับผม
และก็เหมือนเช่นเคยครับผม ใครรักใครชอบสมบัติบ้า ชอบของสะสมที่คนอื่นๆ เขาอาจจะไม่เก็บสะสมกันก็ลองเข้ามาดูในลิงค์ต่างๆ ของคนชงเหล้าดูกันก่อนก็แล้วกันครับผม ตอนนี้ก็มีสมบัติบ้าที่เอาออกมาโชว์กันแล้วประมาณ 7 บล็อค จะพยายามนำมาลงให้ครบ 10 บล็อคให้ได้ก่อนที่จะนำไปรวมเป็นหนึ่งบล็อคใหญ่ เกี่ยวกับสมบัติบ้าของคนชอบสะสมในโอกาสต่อไป
ครับวันนี้ก็มี Cocktails อีกตัวมาฝากกัน เป็น Cocktails ที่เราได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของมันมากันค่อนข้างนานพอสมควรแล้ว เมื่อตอน 20 กว่าปีที่แล้วตอนที่ผมพึ่งจะเร่ิมเข้ามาทำงานโรงแรมใหม่ๆ ก็ได้ยินชื่อ Cocktails ตัวนี้ว่า Mai Tai บ้านเราเรียกว่า ไหม ไทย ประมาณนี้ ตอนนั้นก็เลยคิดเข้าข้างไปเองว่า เจ้า Mai Tai นี้เป็น Cocktails ของไทยว่างั้นก็ชื่อมันบอกว่า ไหม ไทย กว่าจะมารู้ตัวว่า Mai Tai นั้นมันไม่ใช่ของไทยนะ ก็ใช้เวลาอีกตั้งหลายปี หลงเข้าใจผิดว่ามันคือของไทยซะงั้น
Mai Tai นั้นตามหลักฐานที่มีการพูดคุยกันในวงเหล้านั้น เป็น Cocktails ที่ถือกำเนิดขึ้นมาครั้งแรกที่ Hawaii โน่นแนะ โดยการสร้างสรรอย่างบังเอิญของนาย Victor มั้งถ้าจำไม่ผิด เขาได้คิดสูตรนี้ขึ้นมาแบบมั่วๆ ว่างั้นเถอะในการทำเครื่องดื่มต้อนรับเพื่อนๆ ของเขาที่มาเยี่ยมที่บ้านของเขาในเวลานั้น และไอ้เจ้าเครื่องดื่มตัวนี้นั้น ก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อ แต่ว่าใครๆมาด่ืมก็ต่างบอกว่ารสชาดดี อร่อย ดื่มง่าย ประมาณนั้้น จนกระทั้งมาวันนึง ก็มีการทำเครื่องด่ืิมตัวนี้เลี้ยงเพื่อนๆ ของเขาเหมือนเดิมแล้วเพื่อนคนนี้พอได้ดื่ม Cocktails ตัวนี้แล้วก็พูดขึ้นมาทันที่ว่า นี่แหละสุดยอดเลยเป็นภาษาของ Hawaii ว่า Mai Tai หรือว่าภาษาอังกฤษก็ประมาณว่า The best ประมาณนัั้นครับผม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อเครื่องด่ืมตัวนี้ก็ถูกเรียกและเผยแพร่มาเรื่อยจนรู้จักกันไปทั่วโลกว่า Mai Tai งั้นเรามาลองทำ Mai Tai ดื่มกันเอาเองที่บ้านดีกว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า Mai Tai หลังจากได้แพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนและปรับปรุงรสชาดกันไปต่างๆ นาๆ แล้วแต่ว่าบาร์แต่ละที่จะปรุงแต่งกันไป แต่ว่าโดยหลักๆ แล้ว Mai Tai ก็มักจะมีส่วนผสมที่คลายๆ กันดังนี้
Mai Tai
Dark Rum             1 1/2     Oz
Amaretto                  1/2     Oz
Orange Juice            1        Oz
Pineapple Juice        2        Oz
Sweet & Sour          1/2     Oz
Grenadine                1/4     Oz

นี่ก็คือส่วนผสมโดยประมาณ อย่างที่บอกว่าก็แล้วแต่สูตรของแต่ละคน แต่ว่าหลักๆ แล้วก็ต้องมี Rum จะเป็นยี่ห้ออะไรก็ได้ กลิ่นอัลมอนด์ จะใช้เหล้า Amaretto หรือ ว่า Almond Syrup ก็ได้ น้ำผลไม้จะใส่อะไรบ้างก็ได้ แต่ว่าส่วนผสมหลักต้องมี Pineapple Juice ที่เหลือก็แล้วแต่ว่าใครจะปรุ่งแต่งกันครับผม ส่วนวิธีการทำนั้นก็นำส่วนผสมทั้งหมดลงใน Shaker ยกเว้น Grenadine เราจะใช้การ Float หลังจากรินเครื่องดื่มใส่แก้วแล้ว หรือว่าอยากจะผสมทั้งหมดแล้วเขย่าทีเดียวเลยก็ไม่ผิดกติกานะครับผม เสร็จแล้วก็หาผลไม้อะไรมาประดับแก้วซักนิดนึง จะเป็นอะไรก็ได้ครับผม แต่ว่าถ้ามีสัปปะรดก็น่าจะเข้ากันได้ดีครับผม
เอาล่ะครับผม ยังงัยก็ลองทำด่ื่มกันดูครับผม รับรองว่ารสชาดดี และถูกปากคนไทยแน่นอนครับผม ที่สำคัญ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ชอบดื่มด้วย เพราะว่ามันดื่มอร่อย รสหวาน ดื่มง่าย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย อ้าว ฝากไว้นิดนึงนะครับผม การดื่มแอลกอฮอล์ก็ต้องมีสติด้วยนะครับผม
หน้าตาและสีสันของ Mai Tai หลังทำเสร็จก็น่าจะมีหน้าตาและสีสันประมาณนี้ครับผม รับรองว่ารสหวาน ดื่มง่ายครับ

ผลไม้ที่จะนำมาประดับปากแก้วนั้น มีอะไรก็ใช้ได้หมดครับผม ทำให้ดูสวยงามและบางตัวยังทำให้รสชาดดูดีขึ้นอีกด้วย 
เอาล่ะครับผม วันนี้ก็คงมีมาฝากแค่นี้ก่อนแล้วยังงัยจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ
 Drinks Responsibly
ด้วยความปรารถนาดีจาก "คนชงเหล้า"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น